เสริมสุขภาพอย่างรู้เท่าทัน

0
2717

         ในวาระปีใหม่ ถือเป็นโอกาสดีที่จะบอกกับตัวเราเอง บอกกับญาติพี่น้องปู่ย่าตายายพ่ออุ้ยแม่อุ้ยว่า เรามาสร้างสุขภาพกั๋นเต๊อะ  หากว่าท่านเป็นผู้ดูแลสุขภาพ ใส่ใจสม่ำเสมอแล้ว ก็จงทำต่อไปให้สุขภาพดียิ่งขึ้น และชักชวนคนอื่นร่วมสร้างสุขภาพด้วยกัน แต่หากท่านคิดว่า ยังไม่พร้อมที่จะใส่ใจมากมาย หรือคิดว่า สุขภาพก็ดีอยู่แล้ว หรือท่านที่เจ็บป่วย ไม่ว่าอย่างไร เราจงมาให้กำลังใจกันและกันในการสร้างสุขภาพดี หรือช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วย

              สุขภาพทำได้อย่างไร อาจไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาความรู้ แต่ การปฏิบัติตาม อาจต้องใช้เวลา หรือเพิ่มความมุ่งมั่นตั้งใจมากขึ้น เราลองมาดูว่า เราจะเพิ่มเติมการสร้างสุขภาพของเราได้อย่างไร

ประการที่หนึ่ง เรื่อง การสำรวจตนเอง เช่น เรามีโรคประจำตัวหรือไม่ โรคของเรา หมอแนะนำหรือทำการรักษาอย่างไร เราควรระวังอย่างไร ด้านอาหารควรดูว่า เรารับประทานอาหารชนิดใด มากหรือน้อย บ่อยแค่ไหน  เราออกกำลังกายอย่างไร เป็นประจำหรือไม่ เหมาะสมกับตนเองหรือไม่ เรารับฟัง หรือได้รับข้อมูลด้านสุขภาพมาจากไหนบ้าง เชื่อได้ไหม เราซื้อสมุนไพรที่ไหน ซื้อยาที่ไหน กินยาถูกวิธีหรือไม่ เคยมีประสบการณ์ถูกหลอกตามโฆษณาเกินจริงหรือไม่ ส่วนในด้านจิตใจ เราก็ควรสำรวจว่า เราเครียดหรือไม่ ทุกข์ใจอย่างไร  โกรธง่ายไหม  มีวิธีลดความเครียดอย่างไร มีวิธีสร้างอารมณ์ดีอย่างไร เป็นต้น เมื่อสำรวจตนเองแล้วเราลำดับทีละข้อ ข้อไหนดีอยู่แล้ว ข้อไหนต้องปรับปรุง ข้อไหนต้องลดละเลิก

ประการที่สอง เรื่อง เติมความรู้ด้านอาหาร เพราะเหตุใด ก็เพราะในปัจจุบัน มีอาหารมากมายหลายชนิด ทั้งอาหารคาว อาหารว่าง อาหารหวาน ของขบเคี้ยว เครื่องดื่มสารพัด ของกินสารพัด ซึ่ง เราควรเปรียบเทียบความถี่ ว่าเรารับประทานมากน้อยไหม มีส่วนประกอบใดที่เราควรระวัง ถ้ามีความเค็มหรือมีโซเดียมมาก เรารับประทานบ่อย ก็จะได้รับการสะสม ถ้าหวานมากก็สะสม ซึ่งการหาความรู้เพิ่มเติมที่ง่ายคือ การอ่านฉลาก และการประเมินสัดส่วนของการกินแต่ละมื้อหรือแต่ละวัน ถ้ามากเกินไป มีผักนิดเดียวก็เชื่อได้ว่า มีความเสี่ยง ส่วนการประทานผัก ผลไม้ อาหารสุขภาพต่างๆ ข้าวกล้อง ถั่วต่างๆ เราก็ต้องเสริมให้สัดส่วนมากกว่า ไขมัน แป้ง เนื้อสัตว์และอาหารสำเร็จรูป และ ควรมีการปลูกพืชผักในบ้าน จะมากจะน้อย ควรมีการปลูกเป็นอาหารทีเราเชื่อว่า ปลอดสารเคมีในบ้านของเราเอง ด้วยภูมิปัญญาสุขภาพของท้องถิ่นบ้านเรา

ประการที่สาม เรื่อง เติมความรู้ด้านยา เพราะเหตุใด ก็เพราะว่า ยาในปัจจุบัน มีมากมายเหลือเกิน มีขาย มีให้ซื้อให้กินมากเกินไป ถ้าไม่มีความรู้ ถ้าไม่ทำตามคำแนะนำของหมอหรือเภสัชกร หรือมักซื้อยากินเอง ซื้อยาตามโฆษณา ซื้อยาแผนโบราณที่หลอกลวง หากเราเป็นเช่นนี้ต้องหยุด ต้องหยุดเพราะการได้รับยามากเกินไปนอกเหนือจากที่หมอให้แล้ว อาจกลับเป็นผลเสียร้ายแรง มีข้อมูลรายงานว่า มีผู้ป่วยหายยาก เรื้อรัง หรือป่วยซ้ำซ้อนจากยาจำนวนมาก การหาความรู้เรื่องยา ควรปรึกษาหมอ เภสัชกร สื่อที่มาโรงพยาบาล หรือหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานจากสถาบันการศึกษา อย่าเชื่อการบอกต่อ

ประการที่สี่ เรื่อง เติมความรู้ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม เพราะเหตุใด เพราะปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์มากมายมหาศาลที่สามารถผลิตได้ขายได้ มีผู้ขายเกิดขึ้นมากมายทั้งจากร้านค้า จากการขายตรงและขายผ่านออนไลน์ โฆษณาสารพัด กฎหมายก็ไล่ไม่ทัน จับได้ก็ไม่หยุดขาย ดังนั้น ผู้ซื้อผู้ใช้ก็ต้องเพิ่มเติมความรู้ในการป้องกันการถูกหลอก ก่อนซื้อก่อนเชื่อ ก่อนใช้ พิจารณาก่อน อย่าใจร้อนให้สุขภาพดีไวๆ อย่าใจร้อนให้ลดอ้วนไวๆ อย่าใจร้อนให้สวยไวๆ ทุกอย่างควรมีขอบเขต มีเหตุผล แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว พร้อมจ่าย แต่ผลเสียอาจมากกว่าที่เราคิด ในขณะเดียวกัน เราก็ควรเปรียบเทียบกับอาหารเครื่องดื่มที่เราทำได้เอง ปรุงเอง แล้วท่านจะเห็นว่า อาหารเป็นยาที่ดีที่สุดคือพืชผักสมุนไพรของเรานี่เอง

ประการที่ห้า เรื่อง รู้เรื่องโรค อุบัติเหตุ และการป้องกัน เพราะเหตุใด  ก็เพราะปัจจุบัน มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรค ป้องกันอุบัติเหตุ มากมาย แต่เรามักมองข้าม เช่นเรื่องโรคเรื้อรัง  อุบัติเหตุทางจราจร การหกล้มของผู้สูงอายุ เป็นต้น การแสวงหาความรู้ที่เป็นประโยชน์ จะช่วยให้เราป้องกันปัญหา และหากเราเจ็บป่วย เราก็จะเข้าใจการรักษาทั้งจากแพทย์  จากทางเลือกที่เชื่อได้ และจากตัวเราที่ต้องเข้าใจและทำตามการรักษา ซึ่งแม้ว่า เราไม่อาจหยุดยั้ง ไม่ให้ป่วยได้ แต่หากป่วยเราก็ต้องมีกำลังใจ มุ่งมั่นรักษา และศึกษาธรรมะเพิ่มเติมจะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

ประการสุดท้าย เรื่อง การรู้เท่าทันสื่อ เพราะเหตุใด เพราะสื่อสารเป็นยุคดิจิทัล ทุกอย่างเร็ว  ข้อมูลมาก ผิดถูกปะปนกัน ดังนั้น (1)  เราต้องมีสติ ใช้ปัญญา ในการที่จะเชื่อ และทำตาม หรือซื้อหามาใช้ (2) มีสติที่โพสต์ จะแชร์ จะไลค์ อย่าคิดแค่ว่าถูกใจใช่เลย เพราะสิ่งที่ทำอาจส่งผลกระทบมากมาย (3) อย่าให้สื่อพาเราทุกข์ เศร้าหมอง หรือในทางกลับกัน มีการหลงใหลติดตามแบบผิดๆ (4) เลือกสื่อที่ดี เชื่อได้ มีประโยชน์ ให้ความบันเทิง เสริมอารมณ์ดี (5) มีเรื่องดีๆ ก็ช่วยกันโพสต์ แต่อย่าโพสต์เร็วเกินไป แม้ว่าจะเห็นเป็นเรื่องดี แต่ทุกอย่างอาจไม่ใช่อย่างที่เราเห็น อาจละเมิดผู้อื่น

ในวาระปีใหม่นี้ ขออวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพดี มีความสุขความเจริญทุกท่านเทอญ

©สุภฎารัตน์ สุธีพรวิโรจน์