ไปวัดสัพพัญญู เชียงใหม่

0
1813

ถ้าเราไม่ได้อ่านประวัติของวัด ก็อาจทำให้เรานึกไม่ออกว่า เดิมอาจเป็นเพียงวัดเล็กๆ เท่านั้น เพราะวัดในสมัยก่อนคือวัดของชาวบ้านศรัทธา แต่เมื่อมีการบูรณะ บางวัดใหญ่โตมาก ห่างไกลกับสภาพของวัดเดิม

อาจมีการสร้างเพิ่ม บางวัดก็จะจัดสัดส่วนแยกออกไป คงเดิมไว้เคียงคู่ มีประวัติให้อ่าน

ศรัทธาชาวพุทธคือกำลังหลักสำคัญในการทำนุบำรุงศาสนา พร้อมๆกับการนำหลักธรรมเป็นหลักชีวิต

ธันวานี้ ข้าเจ้าได้มีโอกาสไปวัดดอยสัพพัญญู ที่ข้าเจ้าเคยไปกราบเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว กลับไปอีกครั้งพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก

วัดดอยสัพพัญญู เดิมคือ วัดน้ำบ่อติ๋บ

น้ำบ่อ ภาษาเมืองเหนือหมายถึง บ่อน้ำ

ติ๊บ หมายถึง ทิพย์

น้ำบ่อติ๊บ /บ่อน้ำติ๊บ หมายถึง บ่อน้ำทิพย์

เลาะเลียบไปทางสันป่าตอง แม่วาง จะพบน้ำแม่ขาน น้ำสายใหญ่ ของท้องถิ่น

มีการเพาะปลูกโดยทั่วไป สวนลำไย สวนหอม สวนผัก

เตรียมปลูก ถุงปุ๋ยรอด้วยกัน

วัดดอยสัพพัญญู หน้าทางขึ้นจะปลูกต้นชา ทำเป็นคล้ายเขาวงกต มองเห็น พระสัพพัญญูจตุรมงคล

ชื่อป้ายวัดใหม่ ถ่ายย้อนแสง ไม่ค่อยชัด ตัวอักษรมัีนวาว ก็กลมกลืนกันไป

ที่เห็นดำๆ ใต้บาตร หรือใต้พระหัตถ์ คือ รวงผึ้ง

 

พระสัพพัญญูเจ้าจตุรมงคล

สามองค์ จะมีผึ้งเกาะอยู่ สังเกตว่า ส่วนที่ผึ้งเกาะ จะเป็นส่วนที่มีมุมให้เกาะสะดวก

ส่วนอีกองค์ ไม่มีผึ้งเกาะ อาจเป็นเพราะไม่มีจุดที่จะสามารถเกาะได้

มองลงมาจะเห็นหน้าวัด เห็นกลุ่มต้นชา ที่คล้ายเป็นเขาวงกต

ทำหน้าที่ช่วยอนุรักษ์ป่า

นอกจากจะเป็นวัดที่ทำให้เราได้มีโอกาสไปทำบุญ กราบไหว้แล้ว วัดสัพพัญญูยังมีบทบาทสำคัญหลายด้าน หากแวะเวียนมาเชีียงใหม่ แวะมากราบนะคะ

เส้นทางไปวัด จะพบสภาพของชุมชน ยังสวยงาม และน่าสนใจ

บางหมู่บ้าน ยังมีสภาพบ้านเรือนแบบเดิมๆ สวยมากๆ แวะขอถ่ายรูป พ่ออุ้ยยิ้มยินดีให้ถ่ายภาพ เล่าว่า พระชายา เสด็จมายังบ้านหลังนี้ด้วย ในโครงการสายใยรัก

หน้าบ้านจะเห็นดอกสะบันงา(ดอกกระดังงา)

หลังนี้ก็สวยมาก มีรั้วดอกเข็มช่วยประดับ

คิดถึงวัดบ้านเรา

คิดถึงบ้านเก่าของเราๆกันไหมคะ

©สุภฎารัตน์