เคพกูสเบอรี่ (cape gooseberry)

ช่วงนี้ เคพกูสเบอรี่ (cape gooseberry)  โครงการหลวง กำลังออกมาให้เราได้กินอร่อยๆ

หรือท่านใดที่เดินทางไปเที่ยวดอยอินทนนท์ ระหว่างทางจะมีวางขาย

เป็น cape ห่อหุ้มไว้

แกะออกมา เห็นผลสีส้ม สีเหลือง หรืออาจสีเหลืองแกมเขียว ถ้าเก็บมาใหม่ๆ

ส่วนเปลือกหุ้ม ถ้าเก็บไว้หลายวันจะมีสีน้ำตาล แต่ถ้าไปพบเจอเปลือกออกสีเขียวน้ำตาลแสดงว่า เก็บมาใหม่ๆเช่นกัน

เปลือกหุ้ม จะมีปะปนกัน  บางลูกเปลือกหุ้มจะผลิแตก เปิดเห็นผล บางลูกเปลือกหุ้มสนิท

เก็บไว้ได้นานหลายวัน ถ้าเป็นไปได้ควรเก็บไว้ในตู้เย็น

เมื่อแกะเปลือกออก ส่วนมากก็ได้ผลที่สมบูรณ์พร้อมรับประทาน แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่แกะออกมาแล้ว ผลเน่าเสีย

 

การล้างทั้งเปลือก ก็ควรคลี่เปลือก โดยไม่เด็ดจากขั้ว ล้างแล้วก็ต้องนำมาเรียงในตะกร้าตะแกรงให้แห้ง จากนั้นก็แกะกินตามใจชอบ

ถ้าเราแกะเปลือกออกโดยเอาแต่ผลมาล้าง ก็จะดึงเปลือกออกจากขั้วผล  ล้างแล้ว  เราก็ต้องนำมาเรียงในตะแกรงให้น้ำแห้ง หรือ นำมาวางเรียงในจาน รองด้วยกระดาษซับ ให้แห้ง

ผล -มีเปลือกห่อ น่ารัก

ผล-กลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นกลิ่นผักๆคล้ายมะเขือเทศ ไม่ใช่กลิ่นผลไม้

ผล -แกะจากเปลือก

ผล-เวลากิน กินทั้่งผล ส่วนจะเอาไปทำเมนูอื่นๆใดๆ ก็ตามอัธยาศัย

ผล-รสเปรี้ยว รสเปรี้ยวหวาน รสหวาน เรียงตาม ความแก่ของผล แต่ทั่วไป ถือว่า มีรสเปรี้ยวหวาน

ผล-มีจำหน่าย มีผลออกในหน้าหนาว(บ้านเรา)

ปลูก-เมล็ดใช้วิธีเพาะเมล็ด 

ลูกเล็กใหญ่ อาจต่างกันเล็กน้อย พอๆกับมะเขือเทศลูกเล็ก

มีข้อมูลจาก http://www.fruitsinfo.com/Cape-gooseberry-tropical-fruits.php#

ดังนี้

Vitamins (Per 100 g) Vitamin A 3,000 I.U. Of carotene Vitamin B1 (thiamine) 0.01 mg Niacin 0.80 mg Vitamin B2 (Riboflavin) 0.17 mg Vitamin C (Ascorbic Acid) 20.01 mg	Minerals ( Per 100 g) Carbohydrate 12.01 g Calcium 11.5 mg Phosphorous 21 mg Iron 1.70 mg Calories 72 [kcal] Protein 2.01 g Fat 1.1 g Fiber 0.41 g

สำหรับตัวเองแล้ว ชอบมาก ต้องไปแอ่วโครงการหลวงสักหน่อยล่ะ

 

©สุภฎารัตน์